Tag: อาหาร-สุขภาพ

ขอบคุณรูปภาพจาก sanook.com สำหรับถั่วงอกนั้นก็เรียกได้ว่าเป็น ผักที่อยู่คู่ครัวคนไทยมาอย่างช้านานไม่ว่าจะเป็นการกินผัดไทยการกินก๋วยเตี๋ยวซึ่งก็ล้วนแล้วแต่ต้องใส่ถั่วงอกกันซึ่งถามว่าถั่วงอกมันให้รสชาติอะไรก็แทบจะไม่มีรสชาติอะไรเลยแต่เป็นเพราะความเคยชินที่เราเป็นมาช้านาน ก็จึงทำให้ถั่วงอกนั้นกลายเป็นส่วนประกอบของอาหาร ที่สร้างความน่ากินและทำให้หลายๆคนถึงขั้นที่ว่า ถ้าจะกินก๋วยเตี๋ยวหรือผัดไทแล้วไม่มีถั่วงอกนี้ ก็รู้สึกเหมือนได้ขาดอะไรไปสักอย่าง ซึ่งความเป็นจริงแล้ว ถั่วงอกจะมีคุณค่าและประโยชน์อะไรนั้นวันนี้เราก็จะได้ทราบกันครับว่า มันให้ประโยชน์อะไรกับร่างกายและให้ผลเสียอะไรต่อร่างกายบ้าง ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่า มันมีวิธีการกินถั่วงอกที่ถูกต้องด้วย ซึ่งมันก็น่าแปลกมาก ๆ เลย ว่าถ้ากินผิดนี้มันมีผลเสียอะไรต่อร่างกายหรือเปล่าวันนี้ก็จะมาดูกันครับ – การกินถั่วงอกให้ถูกวิธี ถั่วงอกนั้นใคร ๆ ก็คิดว่ากินแล้วมันจะสร้างประโยชน์ แต่มันก็มีข้อเสียและผลลัพธ์ที่ไม่ดีออกมาเหมือนกันครับ อย่างเช่นว่าถ้าหากเก็บรักษาโดยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง หรือว่ าเชื้อโรคที่มีอยู่ในถั่วงอกนั้นมันก็จะสามารถสร้างอันตรายให้กับร่างกายของเราได้ หากล้างไม่ดี และที่สำคัญการกินถั่วงอกแบบดิบนั้น ก็ไม่แนะนำนะครับ ควรจะทำให้มันสุกสักก่อน เพราะว่าในถั่วงอกดิบนั้นจะมีสารที่เรียกว่าสารไฟเตท ซึ่งสารนี้จะเป็นสารที่ยับยั้งการดูดซึมทั้ง โปรตีน และ แร่ธาตุต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกายของเรา ไม่ว่าจะเป็น ธาตุสังกะสี แมกนีเซียม แคลเซียม ธาตุเหล็ก ซึ่งจริง ๆ ก็สามารถทานดิบได้ครับ แต่การทานที่มากเกินไปนั้น ก็จะส่งผลต่อร่างกายทำให้การได้รับสารอาหารต่าง ๆ […]

เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะต้องมีอารมณ์หดหู่ในการทำงานแบบที่อยู่ ๆ ก็เป็นโดยที่ไม่รู้สาเหตุซึ่งอาจเกิดจากความเครียดสะสมแต่เราเองยังไม่รู้ตัวนั้นเอง ในวันนี้เรามีอาหารที่จะช่วยให้อารมณ์ของคุณนั้นดีขึ้นเมื่อได้ทานเข้าไปเป็นประจำแล้วจะมีอะไรบ้างนะเราไปดูกันเลย 1. โกโก้ โกโก้นั้นมีสารประกอบมากกว่า 300 ชนิดที่อยู่ในโกโก้จะมีผลกระทบในแง่บวกให้กับสารเคมีในสมองของเราสารเคมีบางตัวในโกโก้นั้นยังเป็นการช่วยเพิ่มระดับสารเอ็นโดรฟินและเซโรโทนินซึ่งเป็นสารที่ทำให้คุณอารมณ์ดีหากใครที่กลัวอ้วนจากการทานช็อกโกแลตแท่งคุณสามารถหันมาทานโกโก้ได้แต่ต้องทานเป็นโกโก้ที่ไม่หวานจนเกินไปนักจึงจะได้ประโยชน์อย่างพอดี 2. ดาร์กช็อกโกแลต จะสังเกตได้ว่าหากเกิดอาการเครียดหลายคนจะแนะนำให้ทานดาร์กช็อกโกแลตเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผนังหลอดเลือดขยายตัวเลือกจึงไหลเวียนได้ดีขึ้นจึงเกิดการผ่อนคลายหลังจากที่กินช็อกโกแลตเข้าไปแต่การทานอย่างถูกวิธีนั้นต้องกินแค่บาร์เล็ก ๆ วันละ 1 ครั้งเท่านั้นและที่ดินติดต่อกันถึง 2 สัปดาห์จึงจะสามารถช่วยลดระดับความเครียดในร่างกายได้ 3. เห็ด  ในเห็ดมีธาตุอาหารชนิดหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นฮอร์โมนแห่งความสุขได้อีกทั้งยังเป็นตัวลดอารมณ์ขุ่นมัวไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกกดดันหรือว่ากลัวกังวลมีวิตามินดีจากธรรมชาติเป็นตัวกระตุ้นฮอร์โมนความสุขให้มนุษย์ได้ง่ายเพียงแค่คุณทานเป็นประจำทุกวันในปริมาณที่พอเหมาะก็จะทำให้ความเครียดที่คุณมีนักขายไปได้ 4. โยเกิร์ต การทานโยเกิร์ตและนมเปรี้ยวนั้นจะเป็นการเพิ่มไทยไบโอติกช่วยปรับอารมณ์ให้คุณพร้อมทั้งปรับสมดุลแบคทีเรียในลำไส้จึงทำให้อารมณ์ของเรานั้นมีความคงที่มากขึ้นที่สำคัญยังช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นได้อีกด้วย 5. แซลมอนและทูน่า ในเนื้อปลาแซลมอนทูน่า Cycling จะมีกรดไขมันที่ช่วยให้สุขภาพดีขึ้นเช่นไขมันโอเมก้า 3 เป็นสารอาหารที่จะช่วยให้ลดอาการซึมเศร้าอีกทั้งยังเสริมสร้างสมองในส่วนที่ประมวลความรู้สึกและความพึงพอใจอีกด้วยหมายถึงว่าเมื่อทานเป็นประจำคุณก็จะมีอารมณ์ที่ดีขึ้นนั้นเอง      อาหารทั้งห้าอย่างเหล่านี้เป็นสิ่งที่จะช่วยทำให้อารมณ์คุณนั้นดีขึ้นได้อย่างมากการทานเป็นประจำจะเป็นการช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนที่ทำให้อารมณ์ดีเพิ่มขึ้นนั่นเองดังนั้นควรทานให้เป็นประจำและต้องทานอาหารให้ครบ 5 หมู่เพื่อให้ร่างกายได้ประโยชน์ให้ครบครันนั้นเอง Cr.beautiful-diet เว็บที่ช่วยนำเสนออาหารสุขภาพ หรือว่า กินอะไรดี แนะนำร้านอาหารอร่อย ๆ ให้ได้ตามไปชิมแบบชิล ๆ ตามสไตล์ รวมถึง รีวิวคาเฟ่ และบาร์-ร้าน Nightlife สุดชิค […]

หลายปีที่ผ่านมามีผลการศึกษาวิจัยจํานวนมากที่แสดงให้เห็นถึงการเชื่อมโยงค่อนข้างชัดเจนระหว่างการบริโภคผักผลไม้กับการป้องกันโรคมะเร็ง ในแวดวงโภชนศาสตร์ทางการแพทย์ได้พบสารสำคัญชนิดหนึ่งจากในพืชที่เรียกว่า สารอาหารจากพืช หรือ ไฟโตนิวเตรียนท์ ซึ่งเป็นสารที่สามารถต่อต้านการเกิดโรคมะเร็งได้ ด้วยคุณสมบัติพิเศษคือ ลดความเสียหายของดีเอ็นเออันเนื่องจากการโจมตีของอนุมูลอิสระ ช่วยขับสารก่อมะเร็งออกจากร่างกาย และยังสามารถยับยั้งการสร้างระบบท่อน้ำเลี้ยงก้อนมะเร็ง ซึ่งทำให้ก้อนมะเร็งฝ่อลงได้ โดยสารอาหารจากพืชดังกล่าวสามารถพบได้ในพืชผักผลไม้ที่ทานกันอยู่ในชีวิตประจำวัน – ความเป็นไปได้ของผักผลไม้ในการป้องกันมะเร็งบางชนิด           ในการติดตามความก้าวหน้าด้านสุขภาพของผู้หญิง 90,476 คนที่อยู่ในช่วงอายุก่อนถึงวัยหมดประจำเดือน เป็นระยะเวลา 22 ปี แล้ววิเคราะห์ข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างผู้หญิงที่บริโภคผักผลไม้มากที่สุดในช่วงวัยรุ่น (ประมาณ 3 ครั้งต่อวัน) กับผู้หญิงที่บริโภคต่ำสุด (0.5 ครั้งต่อวัน)  ผลการศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่บริโภคผักผลมากที่สุด มีความเสี่ยงในการพัฒนามะเร็งเต้านมลดลง 25% และการลดความเสี่ยงในการพัฒนามะเร็งเต้านมเกิดขึ้นอย่างมีนัยสําคัญในผู้หญิงที่ช่วงวัยรุ่นได้บริโภคผักผลไม้ต่อไปนี้มากขึ้น ผักผลไม้นั้นได้แก่ แอปเปิ้ล  กล้วย องุ่น และข้าวโพด และได้บริโภคส้มและผักคะน้าเพิ่มขึ้นในช่วงวัยผู้ใหญ่ นอกจากนี้เมื่อได้พิจารณาถึงปริมาณใยอาหารในผักผลไม้ที่รับประทาน ก็พบว่า ผู้หญิงที่บริโภคใยอาหารจากผลไม้สูงสุด จะลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งเต้านมลงไปได้  12%  ขณะที่ผู้หญิงที่บริโภคใยอาหารจากผักสูงสุด ลดความเสี่ยงดังกล่าวลง 11% – องค์ประกอบของผักผลไม้ในการป้องกันมะเร็ง           ในการศึกษาสุขภาพผู้หญิง 182,145 คน เป็นระยะเวลา 30 […]

เมื่ออายุมากขึ้น มนุษย์จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปทั้งทางร่างกายรวมถึงภาวะจิตใจด้วย จนส่งผลให้ผู้สูงวัยต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพ ต้องประสบกับโรคภัยต่าง ๆ แม้ว่าผู้สูงวัยจะมีโรคต่าง ๆ อยู่มาก แต่โรคหนึ่งที่ต้องให้ความใส่ใจมาก ก็คือโรคขาดสารอาหาร เพราะภาวะที่ร่างกายขาดสารอาหารนี้จะเป็นตัวการให้ภูมิต้านทานลดต่ำลงและอาจติดเชื้อได้ง่ายในที่สุด ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารของผู้สูงวัยได้อย่างเหมาะสมก็จะช่วยลดปัญหาสุขภาพดังกล่าวลงไปได้ เพราะอาหารจะฟื้นฟูและพยุงให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด – น้ำและสารอาหารหลักของผู้สูงวัย ผู้สูงวัยควรเลือกดื่มน้ำและเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ โดยดื่มน้ำเปล่าให้ได้วันละ 8-12 แก้ว น้ำมีความจำเป็นต่อผู้สูงวัยเป็นอย่างมาก เพราะหากทานน้อยเกินไปก็จะทำให้เกิดภาวะขาดน้ำและส่งผลให้เกิดอาการท้องผูก อ่อนเพลีย เหนื่อยล้าได้นั่นเอง  สารอาหารหลักชนิดแรกคือ คาร์โบไฮเดรต ควรเลือกชนิดที่ไม่ขัดสี ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์และมีใยอาหารสูง ผู้สูงวัยควรทานให้ได้วันละ 6 ทัพพี เพื่อให้ได้พลังงานและสารอาหารที่พอเหมาะในแต่ละวัน ส่วนคาร์โบไฮเดรตชนิดขัดสีและพวกเมนูทอด ขนมหวานต่าง ๆ ควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด เพราะอาจทำให้อ้วนและมีปัญหาไขมันในเลือดสูงได้ สารอาหารหลักชนิดที่ 2 คือ โปรตีนจากพืชและสัตว์ เนื่องจากผู้สูงวัยมักจะมีปัญหาในการเคี้ยวจึงทำให้รับประทานเนื้อสัตว์ได้น้อยลง โดยเน้นเนื้อสัตว์ที่มีความอ่อนนุ่ม เคี้ยวง่ายและย่อยง่าย เช่น เนื้อปลา ไข่ หรือหากเป็นพวกเนื้อหมู เนื้อไก่ก็ควรต้มให้เปื่อยยุ่ยที่สุด ผู้สูงวัยควรทานเนื้อสัตว์ที่วันละ 150 กรัม – […]

          หน้าที่หลักของวิตามินดีคือช่วยดูดซึมแคลเซียม ช่วยให้กระดูกแข็งแรงและป้องกันโรคกระดูกบาง และกระดูกพรุน นอกจากนี้แล้ว คุณสมบัติของวิตามินดีคือ วิตามินดี มีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเพศ จึงมีบทบาทสำคัญในการควบคุมกระบวนการสำคัญต่าง ๆ ในร่างกาย  เช่น ช่วยลดฮอร์โมนพาราไทรอยด์ เพิ่มการหลั่งฮอร์โมนอินซูลินเพื่อปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดและป้องกันโรคเบาหวาน  แต่สิ่งที่สำคัญอีกประการคือ วิตามินดียังกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เพราะมีการค้นพบตัวรับที่จับกับวิตามินดีบนเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีหน้าที่กำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาคุกคามร่างกาย – การขาดวิตามินดีมีความเสี่ยงในการติดเชื้อ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แห่งชิคาโกได้ตรวจสอบผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจำนวน 489 คน และได้รับการตรวจวัดระดับวิตามินดีภายในหนึ่งปี ก่อนที่จะได้รับการตรวจหาไวรัสโควิด-19 ซึ่งผลการศึกษาทำให้พบความสัมพันธ์ระหว่างการขาดวิตามินดีและความเป็นไปได้ที่จะติดเชื้อไวรัสโควิค-19  ข้อมูลเกี่ยวกับวิตามินดีก่อนหน้านั้นทำให้ทราบความสำคัญของวิตามินดีต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน อีกทั้งข้อมูลยังระบุอีกว่า ร่างกายที่ได้รับอาหารเสริมวิตามินดีจะสามารถลดความเสี่ยงของการติดเชื้อทางเดินหายใจจากไวรัสได้ – การขาดวิตามินดีเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโควิด 19           ประชากรชาวอเมริกันประมาณครึ่งหนึ่งอยู่ในภาวะขาดวิตามินดี  โดยมีอัตราที่สูงกว่ามากภาวะขาดวิตามินดีในชาวแอฟริกันอเมริกัน  คนเชื้อสายสเปน และบุคคลที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เช่น ชิคาโกซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะได้รับแสงแดดเพียงพอในฤดูหนาว  ทั้งนี้ผลการศึกษาได้พบว่า ผู้ป่วยที่ขาดวิตามินดี หรือมีวิตามินดีน้อยกว่า 20  นาโนกรัม/มิลลิลิตร และไม่ได้รับการรักษามีแนวโน้มที่จะให้ผลการทดสอบโควิด -19 เป็นบวกได้เกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่มีระดับวิตามินเพียงพอ   ทั้งนี้การทำความเข้าใจว่าการรักษาภาวะขาดวิตามินดีจะช่วยเปลี่ยนแปลงระดับความเสี่ยงต่อไวรัสโควิด -19 นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ และระดับโลก  เนื่องจากวิตามินดีมีราคาไม่แพง […]

          ปัจจุบันมีทั้งมันเทศและมันฝรั่งมาให้เลือกรับประทานกันมากขึ้น  ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับพืชบริโภคหัวทั้งสองชนิดนี้  ในโลกตะวันตกนั้น มันฝรั่งเป็นที่รู้จักกันมาอย่างยาวนาน แต่สายพันธุ์มันฝรั่งที่นำมาทำเฟรนช์ฟรายส์นั้นเกิดขึ้นราวทศวรรษที่ 1860  โดยมีต้นกำเนิดทางตอนเหนือของรัฐนิวยอร์ก ซึ่งลูเธอร์ เบอร์แบงค์ ได้คัดเลือกต้นกล้ามันฝรั่งมาปลูกจึงได้ชื่อพันธุ์ว่า รัสเซตเบอร์แบงค์  จนกระทั่งช่วงต้นทศวรรษที่ 1900 มันฝรั่งสายพันธุ์นี้ได้รับการปรับปรุงพันธุ์ให้สามารถเติบโตในพื้นที่แปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ จนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อุตสาหกรรมมันฝรั่งแช่แข็งจึงเริ่มต้นขึ้น และทำให้มันฝรั่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ส่วนมันเทศมีถิ่นกำเนิดเดิมอยู่บริเวณเขตร้อนของทวีปอเมริกา หลังจากชาวยุโรปค้นพบทวีปอเมริกา  นักสำรวจชาวสเปนได้นำมันเทศไปสู่ประเทศสเปน จากประเทศสเปนก็แพร่ต่อไปยังประเทศอื่น ๆ ในยุโรป  อินเดีย ฟิลิปินส์ จีน และญี่ปุ่น – คุณค่าทางโภชนาการของมันเทศและมันฝรั่ง           มันเทศเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ มีใยอาหารสูง วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น โดยเฉพาะเบต้าแคโรทีนซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอในร่างกายได้ ดังนั้นร่างกายสามารถรับวิตามินเอทุกวันได้ง่าย ๆ จากมันเทศ วิตามินเอ นั้นดีต่อสุขภาพตาและกระดูก รวมทั้งยังช่วยต่อต้านการติดเชื้อที่ผิวหนังปอดและปาก และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างมันเทศและมันฝรั่ง  มันทั้งคู่มีคุณค่าทางโภชนาการและเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเพื่อสุขภาพ ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน ทั้งยังมีวิตามินซีและโพแทสเซียมในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน  อย่างไรก็ดี มันเทศมีใยอาหารและเบต้าแคโรทีนมากกว่า มีอีกอย่างหนึ่งที่เกี่ยวกับมันเทศ คือ มันเทศมีสีอื่นนอกจากสีส้ม เช่น […]

อาหารปิ้งย่างเป็นอาหารยอดนิยมของคนในยุคสมัยนี้ ดังนั้นจึงพบเห็นได้ทั่วไปแทบทุกที่ เพราะ อร่อย สะดวก หาซื้อง่าย มีขายตั้งแต่บนรถเข็น แผงลอยริมถนน ไปจนถึงร้านอาหารระดับใหญ่ ๆ ซึ่งก็มีทั้งหมูปิ้ง หมูย่าง ไก่ย่าง ปลาดุกย่าง เนื้อย่าง อาหารทะเลปิ้งย่าง หมูกระทะ เป็นต้น อาหารปิ้งย่างนี้นอกจากจะมีความอร่อยแล้ว ก็ยังแฝงเอาอันตรายอื่นมาพร้อมกับความอร่อยด้วย เพราะอาหารปิ้งย่างอาจก่อให้เกิดมะเร็งได้ในรูปแบบที่แตกต่างกันไป – อาหารปิ้งย่าง ความอร่อยที่มาพร้อมกับมะเร็ง ตามปกติ ตับจะเป็นปราการด่านแรกที่ทำหน้าที่ในการเปลี่ยนแปลงสารพิษ ดังนั้นสารก่อมะเร็งในอาหารที่รับประทานเข้าไปจะถูกดูดซึมแล้วไปที่ตับ ด้วยเหตุนี้ ตับจึงเป็นอวัยวะที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งจากการบริโภคอาหารที่มีสารพิษมากที่สุด สารพิษที่พบในอาหารปิ้งย่าง ได้แก่ สารโพลีไซคลิคอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน หรือเรียกย่อ ๆ ว่า พีเอเอช  สารนี้มักเกิดกับเนื้อสัตว์ส่วนที่มีไขมันหรือมันเปลวติดอยู่ด้วย เวลาปิ้งย่าง ไขมันที่ติดอยู่จะหยดลงบนถ่านหรือแผ่นความร้อนแล้วเกิดการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ เป็นควันที่ลอยขึ้นไปเกาะกับผิวของอาหารพร้อมกับควันดำ สารพีเอเอชจะพบมากบริเวณที่อาหารไหม้เกรียม มักพบในอาหารปิ้งย่าง จำพวกหมูย่างติดมัน เนื้อย่างติดมัน ไก่ย่างส่วนที่ติดมัน   สารเฮเทอโรไซคลิกเอมีน  หรือสารเอชซีเอ เกิดจากการปิ้งย่างที่ใช้ความร้อนสูงหรือเกิดจากกระบวนการปรุงอาหารที่ใช้ระยะเวลาในการต้มเคี่ยวนาน ๆ เช่น เนื้อตุ๋น […]

               เมื่อสั่งอาหารรับประทานในร้านอาหารริมทาง สิ่งหนึ่งที่เราจะต้องพบเจอแน่ ๆ นั่นคือผงชูรส พ่อค้าแม่ค้ามักนิยมใส่เพื่อทำให้รสชาติอาหารน่ารับประทานยิ่งขึ้นเพื่อรสชาติ “อูมามิ” ในราคาถูก ภัตตาคารระดับสูงมักจะไม่ใส่ผงชูรสเพราะมีเทคนิคการทำที่สามารถดึงรสชาติ “อูมามิ” หรือรสชาติความอร่อยของอาหารนั้นออกมาได้มากที่สุด โดยใช้เทคนิคที่แตกต่างกันออกไป เช่นต้มกระดูกหมู หรือกระดูกสัตว์ทะเล ผ่านการเคี่ยวเป็นเวลานาน เพื่อดึงรสชาติความอร่อยจากธรรมชาตินั้นออกมา แต่เทคนิคดังกล่าวนั้นจำเป็นต้องใช้วัตถุดิบที่มีราคาสูง ประกอบกับเวลาในการเตรียมค่อนข้างนานดังนั้น เราจะมาทำความรู้จักกับผงชูรสที่ทำให้รสชาติอาหารออกมาดีแถมมีราคาถูกกันว่าทำมาจากสิ่งใด หากรับประทานมาก ๆ แล้วจะส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพ และทำให้เสียชีวิตจริงหรือไม่ Cr.sanook.com – ความเป็นมาของ “ผงชูรส”                ผงชูรส หรือโมโนโซเดียมกลูตาเมต (Monosodiumglutamate หรือ MSG) มีการผลิตขึ้นครั้งแรกในปี 2450 โดยชาวญี่ปุ่นผู้มีนามว่าดร.คิคุนาเอะ อิเคดะ เขาค้นพบว่ารสชาติความอร่อยนั้นไม่ได้ถูกจำกัดเพียงแต่รสชาติ เปรี้ยว เค็ม หวาน เพียงอย่างเดียว แต่มีรสชาติบางอย่างที่ทำให้สมองสามารถรับรู้ความอร่อยได้โดยไม่จำเป็นต้องรู้สึก “เปรี้ยว” “เค็ม” “หวาน” ที่ลิ้น ซึ่งเขาค้นพบรสชาติความอร่อย นั้นมาจาก “กรดกลูตามิก” […]

การทานผักนั้นเป็นการช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากวิตามินและเกลือแร่ที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นเองได้จึงต้องรับจากผักผลไม้เท่านั้นแต่ท่านรู้หรือไม่ยังมีผักอยู่ 5 ชนิดที่ไม่สมควรกินดิบหรือทานได้แต่ไม่ควรทานมากจนเกินไปเพราะอาจส่งผลอันตรายต่อร่างกายได้จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย 1. กะหล่ำปลี กะหล่ำปลีนั้นจะต้องปรุงให้สุกเสียก่อนเพราะในกะหล่ำปลีดิบจะมีสารที่ทำให้ไปจับกับแคลเซียมที่บริเวณกรวยไตซึ่งหากมีสารตัวนี้ที่กรวยไตมากๆ จะทำให้เป็นนิ่วในไตได้  2. ดอกกะหล่ำ ตามปกติคนไทยอาจจะไม่ได้ทานดอกกะหล่ำดิบกันอยู่แล้วแต่หากมีใครที่ชื่นชอบการทานผักดิบมากๆ หรือชอบทานดอกกะหล่ำที่ต้มไม่สุกลวกไม่สุกหรือกึ่งสุกกึ่งดิบอาจทำให้เกิดอาการท้องอืดขึ้นได้ดังนั้นควรทำให้สุกสนิทถึงจะดีกว่า 3. บรอกโคลี บล็อกโคลี่กรอบ กรอบอาจจะเป็นที่นิยมของหลาย ๆ คนแต่ความเป็นจริงแล้วบล็อกโคลี่มีน้ำตาลที่จะต้องย่อยด้วยความร้อนจะทำให้คุณไม่เกิดอาการท้องอืดและยังมีฮอร์โมนบางชนิดที่จะเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดเสี่ยงกับโรคไทรอยด์ได้แต่หากคุณทำให้สุกฮอร์โมนตัวนี้จะหายไปและไม่ทำให้เกิดโทษกับคุณได้นั่นเอง 4. ถั่วฝักยาว ผักอีกชนิดที่เรานิยมทานดิบกันเสียมากกว่าเพราะใส่ทั้งในส้มตำ ทานแกล้มกับลาบ น้ำตก อาหารอีสานทั่ว ๆ ไปแต่ในถั่วฝักยาวใช่ว่าจะทานดิบเลยไม่ได้ หากคุณทำความสะอาดถั่วฝักยาวดิบให้ดีล้างสารพิษที่ปนเปื้อนมากับถั่วฝักยาว คุณก็สามารถทานดิบได้แล้ว แต่หากคุณไม่แน่ใจอย่างน้อยคุณนำไปลวกให้สุกสักหน่อยก็สามารถทานได้เหมือนกัน 5. ถั่วงอก ถั่วงอกที่นิยมกินดิบกันความเป็นจริงแล้วคุณยังทานแบบดิบได้อยู่หากถั่วงอกนั้นเป็นถั่วงอกที่คุณปลูกเองหรือมั่นใจว่ามาจากสวนที่ทำการปลูกแบบ Organic ไม่มีการใส่สารปนเปื้อนหรือใส่สารฟอกขาวในขณะที่ขายเพราะที่ต้องทานสุกนั้นเกิดจากเชื้อแบคทีเรียและสารฟอกขาวที่พ่อค้าแม่ค้าได้ใส่ไว้จึงเป็นอีกหนึ่งผักที่ขอแนะนำว่าให้ทานสุกจะดีกว่า   ผักที่เราได้นำเสนอไปนั้นบางตัวความเป็นจริงก็สามารถทานสดได้หากคุณมั่นใจว่าผักที่คุณจะทานนั้นเป็นผักที่ปลูกอย่างปลอดภัยไร้สารพิษหรือแนะนำว่าเป็นผักที่คนปลูกเองคุณก็สามารถทานได้อย่างสบายใจนั่นเอง เครดิตภาพ kapook เว็บที่ช่วยนำเสนออาหารสุขภาพ หรือว่า กินอะไรดี แนะนำร้านอาหารอร่อย ๆ ให้ได้ตามไปชิมแบบชิล ๆ ตามสไตล์ รวมถึง รีวิวคาเฟ่ และบาร์-ร้าน Nightlife สุดชิค […]

            อกไก่เป็นวัตถุดิบยอดนิยมของชาวคนรักสุขภาพและคนที่กำลังลดน้ำหนัก เพราะคุณค่าทางโภชนาการของอกไก่ ทั้งให้พลังงานต่ำแต่มีโปรตีนสูง ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ควบคุมน้ำหนัก เพราะไม่มีไขมันและเนื้อแน่นอิ่มง่าย ช่วยลดความเหนื่อยล้าของกล้ามเนื้อ บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง เสริมสร้างการทำงานของหัวใจและกล้ามเนื้อ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง มีวิตามิน B3 มีลิวซีนที่ช่วยให้ออกกำลังได้นาน ลดการสลายตัวของกล้าวเนื้ออีกด้วย             ด้วยคุณสมบัติทั้งหลายของอกไก่ทำให้วัตถุดิบชนิดนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก สำหรับคนรักสุขภาพเรามีเมนูจากอกไก่มาให้ท้าลองเข้าครัวทำกันค่ะ ไปดูเลย – 3 เมนูเพื่อสุขภาพจากอกไก่ เด็กกินได้ผู้ใหญ่กินดี 1. ผัดกะเพราอกไก่ วัตถุดิบ             อกไก่ น้ำมันมะกอก ใบกะเพราะ น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส น้ำมันหอย พริกชี้ฟ้า กระเทียม ขั้นตอนการทำ             โขลกกระเทียมและพริก นำไปผัดในน้ำมันมะกอกให้เหลืองหอม ใส่อกไก่หั่นชิ้นลงไป ผัดให้สุก ปรุงรสด้วยน้ำตาล ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส น้ำมันหอย ผัดให้เข้ากัน ชิมรสให้ได้ตามชอบ ใส่ใบกะเพราะลงไปผัด เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ […]