Category: เมนูอาหาร

            ในช่วงเวลาหนึ่งคนไทยย่อมจะมีกระแสฟีเวอร์แปลก ๆ ที่ทำให้เกิดความนิยมสิ่งของหนึ่งจากบุคคลดังในไทยที่ใช้สิ่งนั้นจนกลายเป็นว่ามีแต่คนให้ความสนใจในการซื้อสิ่งของนั้นมาด้วยความปลาบปลื้มและความอยากอวดอยากโชว์ในแบบของตัวเองกันบ้าง หรือไม่บางคนก็อยากจะลองใช้ชีวิตทำตามบุคคลแรงบันดาลใจที่ตัวเองชื่นชอบด้วยจึงไม่แปลกหากจะเกิดกระแสฟีเวอร์เมื่อสิ่งของนั้นเป็นของที่แปลกใหม่ในเมืองไทยหรือเป็นของที่อาจจะอยู่คู่กับไทยมานานแต่ไม่คิดว่าบุคคลสำคัญเหล่านั้นจะใช้หรือรักในสิ่งของได้ ซึ่งเวลานี้กระแสที่ปังมาแรงที่สุดซึ่งเราอยากนำมาบอกเล่ากัน คือ “กระแสข้าวเหนียวมะม่วงของมิลลิ” ที่หลังจากเกิดขึ้นก็ทำให้ขนมไทยอย่างข้าวเหนียวมะม่วงเกิดความนิยมพุ่งแรงในท้องตลาดจนแม้แต่ชาวต่างชาติที่ติดตามมิลลิก็ยังทำรับประทานกันเองเลย! นับว่าเป็นเรื่องดีที่ทำให้ข้าวเหนียวมะม่วงซึ่งเป็นขนมเอกลักษณ์ของไทยเราเกิดคุณค่าในสายตาคนรุ่นใหม่มากขึ้น – ความอร่อยของข้าวเหนียวมะม่วง                สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักเมนูข้าวเหนียวมะม่วงวันนี้เราจะนำมาบอกกัน “ข้าวเหนียวมะม่วง” เป็นเมนูข้าวเหนียวในที่หมักกะทิและน้ำตาลหอมหวานท็อปปิ้งหน้าด้วยมะม่วงสุกสีเหลืองทองที่หอมและหวานฉ่ำอร่อยตบท้ายด้วยการราดอีกชั้นของน้ำกะทิข้น ๆ ซึ่งอร่อยจนต้องบอกต่อ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่หากได้ลองรับประทานแล้วจะต้องติดใจแน่นอน เพราะรสชาติหวานของมะม่วงสีเหลืองสุกกับข้าวเหนียวจะตัดกับรสชาติเค็มมันของน้ำกะทิข้นได้อย่างลงตัวฟิน ๆ มาก อีกทั้งยังสดชื่นและอิ่มอร่อยได้โดยไม่ต้องซื้อไอศกรีมเลย – เหตุการณ์ที่ควรรู้เกี่ยวกับ “กระแสข้าวเหนียวมะม่วงของมิลลิ”                จุดเริ่มต้นของกระแสข้าวเหนียวมะม่วงมิลลิเกิดจากเมื่อวันที่ 17 เมษายนในเมืองไทย “มิลลิ – ดนุภา คณาธีรกุล” นักร้องหญิงแร็ปเปอร์รุ่นใหม่ไฟแรงของไทยได้ไปร่วมแสดงโชว์กับศิลปินจากเอเชียอีก 7 คนบนเวทีระดับโลก Coachella 2022 ที่สหรัฐอเมริกาโดยเนื้อหาเพลงแร็ปที่เธอแสดงออกได้บอกเล่าความจริงของเมืองไทยในหลายมุมมองไม่ว่าจะเป็นอาการศที่ร้อนทุกฤดูแม้จะมี 3 ฤดูในไทย, รถไฟไทยสมัย ร.5 ใช้มาแล้ว 120 ปี และอื่น ๆ อีกทั้งได้ร้องเพลงฮิตของเธอ […]

            แม้ว่า “ข้าวคลุกกะปิ” จะเป็นอาหารที่คนไทยทั้งคนรุ่นก่อนและคนรุ่นใหม่ยุคปัจจุบันนิยมรับประทานกันมาก แต่หากบางทีเราเจอข้าวคลุกกะปิที่ทำไม่ถูกสูตรเอกลักษณ์เหมือนที่เคยรับประทานก็อาจจะรู้สึกเฟลและทำให้ไม่อยากรับประทานข้าวคลุกกะปิร้านนั้นได้ เพราะว่าในช่วงเวลาที่ไทยอยู่ในยุคข้าวยากหมากแพง หมูก็ขึ้นราคา ของหลายอย่างบขึ้นราคาเช่นนี้ แน่นอนว่าเมนูอาหารที่รวมเอาวัตถุดิบมีราคามากมายมาไว้ด้วยกันอย่างข้าวคลุกกะปิย่อมจะถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ทำให้มีหน้าตาสีสันและรสชาติแตกต่างไปจากเดิม และบางส่วนก็เกี่ยวกับสูตรคิดค้นของตัวเองด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไรข้าวคลุกกะปิก็ถือเป็นเมนูตายตัวในวัตถุดิบที่ควรเลือกให้เหมาะสมตามต้นตำรับ ไม่เช่นนั้นความอร่อยก็จะลดลงอย่างที่เราเจอนี่ล่ะ วันนี้เองเราก็จะพาทุกคนมารู้จักวิธีการเลือกวัตถุดิบสำคัญที่ต้องมีในการทำ “ข้าวคลุกกะปิ” ที่ถูกต้องบอกเล่ากันให้เจาะจงชัดเจนกันไปเลยว่าไม่ควรเปลี่ยน! จะมีวัตถุดิบใดบ้างอ่านกันเลย – “หมูสามชั้น”                “หมูสามชั้น” เป็นวัตถุดิบสำคัญที่จะทำให้ข้าวคลุกกะปิมีความสมบูรณ์แบบในรสชาติหลักที่ต้องมีความเค็มของกะปิในข้าวที่ตัดกับความหวานโด่งและหอมธรรมชาติเด่น ๆ ของน้ำตาลโตนดที่มาจากการนำมาผัดกับหมูสามชั้นจนได้เป็นหมูหวานที่มีน้ำข้น ๆ อร่อย ย้ำว่าต้องใช้หมูสามชั้นเท่านั้นจึงจะอร่อยได้ เพราะความอร่อยของข้าวคลุกกะปิจะเกิดจากการมีความนุ่มของมันหมูผสมกับความหนาของเนื้อที่เข้ากันอย่างสมบูรณ์แบบ หากใช้แต่หมูเนื้อล้วนล่ะก็จะทำให้หมูมีความแข็งเมื่อผัดคลุกเคล้ากับน้ำตาลโนดมาก เพราะต้องหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ด้วย – “มะม่วงเปรี้ยว”                “มะม่วงเปรี้ยว” เป็นวัตถุดิบสำคัญที่สามารถตัดความเลี่ยนของหมูหวานซึ่งเป็นเครื่องเคียงคู่กับข้าวคลุกกะปิได้อย่างดีด้วยรสชาติความเปรี้ยวจี๊ดที่ทำให้มีความอร่อยสมบูรณ์แบบ จึงไม่ควรใช้ผักอื่น มะม่วงมัน หรือมะม่วงหวานเข้ามาแทนที่มะม่วงเปรี้ยว ไม่เช่นนั้นจะทำให้รสชาติข้าวคลุกกะปิที่ต้องมีสามรสตามต้นตำรับไทยที่สืบทอดต่อกันมาเปลี่ยนไปได้ อย่าลืมว่าข้าวคลุกกะปิต้องมีรสเค็ม  เปรี้ยว หวานเป็นหลัก – “กะปิตัวกุ้ง”                “กะปิตัวกุ้ง” เป็นหนึ่งในวัตถุดิบต้นตำรับสำคัญที่ต้องมีในข้าวคลุกกะปิดเพราะจะทำให้ข้าวคลุกกะปิมีความหอมและมีรสชาติของกุ้งที่ติดมาด้วย โดยกะปิที่ใช้นี้ก็จะเป็นกะปิสำหรับทำข้าวคลุกกะปิได้โดยตรงและเมื่อนำกุ้งฝอยที่เป็นวัตถุดิบอย่างดีอยู่คู่แม่น้ำไทยมาลงในกะปิก็จะช่วยชูรสชาติตัวกะปิให้โด่งแตกต่างจากกะปิอื่นจนไม่เหม็น ได้ความเค็มแบบพอดี […]

            เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะชื่นชอบการสั่งเป็ดย่างมารับประทานกันมากเวลาที่มีโอกาสพิเศษซึ่งเราได้ชักชวนเพื่อนร่วมงานหรือคนรู้จักที่สนิทกันไปสังสรรค์ตามร้านอาหารสไตล์วัฒนธรรมจีนกันทุกครั้งซึ่งหากเป็นสายเป็ดย่างอย่างแท้จริงก็ย่อมจะรู้ว่าเป็ดย่างมีที่มาจากต้นตำรับ “เป็ดย่างปักกิ่ง ประเทศจีน” ที่มีชื่อเสียงมาเนิ่นนานจนใคร ๆ ก็ต้องอยากไปรับประทานกันให้ได้ ไม่มีเป็ดย่างใดจะอร่อยเท่าเป็ดย่างปักกิ่งที่มีสูตรการทำเด็ดมาตั้งแต่เมื่อหลายร้อยปีก่อนแล้วจนกลายเป็นตำนาน แต่จะมีสักกี่คนกันที่รู้ว่าแม้ประเทศไทยเราจะนำสูตรเป็ดย่างปักกิ่งมาทำให้ผู้คนรับประทานกันจนรู้สึกอร่อยอยากลองไปรับสัมผัสรสชาติของเป็ดปักกิ่งจีนสักครั้งว่าจะมีระดับอร่อยกว่าเป็ดย่างของไทยมากแค่ไหน แต่ความจริงแล้วเป็ดย่างปักกิ่งกับเป็ดย่างไทยนั้นมีความแตกต่างกันค่อนข้างจะเยอะอยู่มากหากยกเว้นวิธีการปรุงที่ใช้สูตรตามแบบของปักกิ่ง ประเทศจีนเป๊ะ! – เป็ดย่างปักกิ่ง                “เป็ดย่างปักกิ่ง” เป็นเป็ดย่างที่อาจมีลักษณะตรงกันข้ามกับที่คุณคิดไว้อย่างสิ้นเชิง เพราะเป็ดที่ถูกเสิร์ฟตามร้านอาหารจีนในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนจะเสิร์ฟมา 2 รูปแบบตามที่แต่ละร้านจะทำ ได้แก่ รูปแบบเป็ดปักกิ่งที่มาเป็นตัว โดยมีหนังที่กรอบจนอาจเรียกให้เห็นภาพได้ว่ากรอบคล้ายกับหนังหมูย่างเมืองตรัง โดยเราต้องทำการตักเป็ดออกมาเองซึ่งกว่าจะตักออกมาได้แต่ละครั้งจะใช่เวลาเล็กน้อย ด้วยเป็ดย่างปักกิ่งจะมีหนังที่เหนียวแน่นติดเนื้อมาก แต่ภายในเนื้อจะค่อนข้างนุ่มละมุนหอมสมุนไพร โดยรับประทานจะมีความเหนียวของหนังเป็ดที่เคี้ยวนานและหอมจาง ๆ และอีกรูปแบบหนึ่ง คือ รูปแบบเป็ดย่างปักกิ่งที่มาเป็นชิ้น ๆ เรียงรายกันโดยมีการวางหนังเป็ดย่างท็อปปิ้งเนื้อไว้เป็นแผ่นบางสวยกรอบจนแทบไม่เห็นความมันและความหนาของชั้นหนังเป็ดเลย ซึ่งสรุปว่าเป็ดย่างปักกิ่งจะเน้นเอกลักษณ์ที่เนื้อนุ่มละลายในปากมากกว่าและหนังเป็ดย่างก็เป็นเพียงส่วนภายนอกที่เหมือนเครื่องเคียงเท่านั้น ลิงก์ที่เกี่ยวข้องกับ “เป็ดย่างปักกิ่ง” 【小桐美食】北京烤鸭 烤箱烤鸭 Peking Duck homemade – เป็ดย่างไทย                “เป็ดย่างไทย” จะเน้นความอร่อยของเป็ดย่างทั้งหนังเป็ดย่างที่มีความหนานุ่มละมุนลิ้น หวานหอมกลิ่นซอสกับเครื่องเทศของจีน ไม่บางแบบเป็ดย่างปักกิ่ง […]

            “ข้าวมันไก่” เป็นเมนูอาหารที่ทั่วโลกให้การยอมรับในเรื่องของความอร่อยที่เข้าถึงความชอบของผู้คนได้ทุกเพศทุกวัยด้วยความหอมของข้าวมันที่แต่ละเม็ดจะมีน้ำมันชุ่ม รับประทานคู่กับไก่ต้ม ไก่ทอด และไก่อื่น ๆ ได้อย่างเข้ากันได้ดีกับสิ่ง 2 สิ่งที่มีความมันที่แตกต่างกันทำให้เข้ากันได้เป็นอย่างดีพอ ๆ กับเมนูข้าวเหนียวไก่เลย โดยต้นตำรับของข้าวมันไก่นั้นมาจากจีนที่เป็นประเทศซึ่งถูกขนานนามว่า “อาหารหลากหลายที่สุดในโลก”ด้วย อีกทั้งอาหารของจีนก็ยังได้เผยแพร่ไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกจนเกิดการประยุกต์เป็นเมนูต่าง ๆ จำนวนมากและเป็นต้นแบบที่ทำให้มีเมนูที่แปลกขึ้นในประเทศนั้น ๆ ด้วยแนวคิดของนักทำอาหารในประเทศ โดยข้าวมันไก่นั้นก็ได้ถูกเผยแพร่ไปยังทุกประเทศทั่วโลกจนใคร ๆ ก็รู้จักกันทั้งนั้น และหากคุณอยากไปรับประทานข้าวมันไก่ที่ได้ชื่อว่าอร่อยระดับโลกล่ะก็ต้องไม่พลาดเดินทางไปจัดที่ประเทศเหล่านี้ให้ได้เลย – “ไหหลำ”                “ไหหลำ” หรือ “ไห่หนาน” เป็นเกาะทางตอนใต้ที่อยู่ในประเทศจีนซึ่งบอกเลยว่าหากคุณเดินทางมาที่เกาะไหหลำแต่ไม่ได้รับประทานข้าวมันไก่ไหหลำแล้วล่ะก็ถือว่ามาไม่ถึงทีเดียว เพราะข้าวมันไก่ของไหหลำเป็นข้าวมันไก่สูตรดั้งเดิมที่ต้นกำเนิดของข้าวมันไก่ทั่วโลกมาจากเกาะแห่งนี้นั่นเอง โดยความพิเศษของข้าวมันไก่ไหหลำ เมื่อรับประทานแล้วจะมีกลิ่นหอมถ่านจากการหุงข้าวมันและเนื้อไก่ส่วนน่องที่นุ่มชุ่ม ๆ ได้อย่างดีพร้อมเครื่องเคียงอย่างตับ กึ๋น เลือด จิ้มกับน้ำจิ้มข้าวมันไก่เผ็ดนิด ๆ ที่หอมขิงและพริกขี้หนูซอยมาก – “สิงคโปร์”                “สิงคโปร์” ใครต่อใครที่มาเที่ยวที่นี่ล้วนแล้วแต่ต้องเข้าร้านข้าวมันไก่เป็นอันดับแรกในยามเช้าและยามกลางวัน เพราะทุกคนต่างก็บอกว่าข้าวมันไก่สิงคโปร์ได้รับการยกย่องเรื่องความอร่อยมากกว่าเมนูข้าวมันไก่จากหลาย ๆ ประเทศทางแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ […]

เนปาลเป็นดินแดนที่โอบล้อมไปด้วยเทือกน้อยใหญ่ เต็มไปด้วยกลิ่นอายของอารยธรรมและศาสนา มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับดินแดนแห่งนี้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเทศในฝันของนักเดินทางหลายๆคน และสิ่งหนึ่งของที่นี่ที่ไม่ควรพลาดก็คือสุดยอดอาหารสตรีทฟู้ดสไตล์เนปาลี นั่นเอง ว่าแต่จะมีเมนูไหนพลาดใม่ได้บ้าง ตามไปดูกันเลยค่ะ 1. Momo โมโมเนื้อควาย เป็นเมนูเกี๊ยวนึ่งสอดไส้เนื้อควาย อาหารจานเด็ดของทั้งชาวเนปาลและทิเบต นิยมกินเป็นอาหารว่างและอาหารจานหลัก มีลักษณะคล้ายหลงเปาหรือติ่มซำของจีน ตัวไส้ปรุงรสคล้ายไส้เกี๊ยวซ่า มีวิธีการเสิร์ฟหลายแบบทั้งแบบนึ่ง ทอดกรอบๆ ราดน้ำแกงจนถึงเกี๊ยวน้ำ และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเครื่องเทศปรุงรส ภาพจาก : th.openrice.com 2. Pani Puri ปานีปูรี ปานีปูรีเป็นของกินเล่นที่มีขายทั่วไปตามท้องถนนในเนปาล เป็นสตรีทฟู้ดที่ฮอตฮิตมาก ไม่ใช่แค่ในเนปาล แต่รวมไปถึงประเทศในแถบนั้นด้วย ไม่ว่าจะเป็น อินเดีย บังกลาเทศ ปากีสถาน ซึ่งคำว่า ‘ปานี’ แปลว่า น้ำ ส่วน ‘ปูรี’ หมายถึง แป้งทอดกลมพอง ปานีปูรีจึงคือแป้งทอดกลมพองกรอบ ด้านในบรรจุไส้ทำจากมันฝรั่ง หัวหอม ถั่วชิกพี ราดด้วยชัทนีย์มะขามรสหวานนิดๆ และน้ำปรุงปานีรสออกเปรี้ยวผสมเผ็ด ซึ่งแต่ละร้านก็จะมีการดัดแปลงส่วนผสม และรสชาติที่แตกต่างกันออกไป […]

            ในเวลาที่เราไม่รู้จะรับประทานอะไรดี รู้แค่ว่าอยากได้อาหารที่ทำให้ร่างกายมีความอบอุ่นและได้พลังงานที่เยอะ อิ่มอร่อยเหมือนอาหารหนักหลัก ๆ ปกติได้อย่างเต็มที่ เมนูที่น่าจะตรงกับตัวเลือกของคุณมากที่สุดจึงเป็นเมนูข้าวต้มกุ๊ยหรือข้าวต้มขาวที่เทใส่ถ้วยได้อย่างร้อน ๆ เหมาะกับร่างกายมากที่สุดในมื้อที่ต้องการอาหารอ่อน ๆ ได้แก่ มื้อเช้าและมื้อเย็น เพราะการที่เรารับประทานแต่ข้าวต้มหมูทรงเครื่องอาจจะทำให้รู้สึกเบื่อได้และให้ฟีลลิ่งที่จืดชืด ไม่ค่อยถูกเติมเต็มในรสชาติอื่น ๆ เท่าไหร่ หิวก็หิวง่ายหลังรับประทานได้ไม่นานจึงทำให้ข้าวต้มกุ๊ยเป็นข้าวต้มที่เหมาะกับคุณมากที่สุดแล้ว และยิ่งเป็นเมนูกุยช่ายขาวด้วย ยิ่งเหมาะที่จะนำมารับประทานคู่กับข้าวต้มมากที่สุดในหมู่เมนูผัดผักอื่น ๆ แล้ว ใครอยากรู้ว่าจะอร่อยขนาดไหนก็ต้องมาจัดกันเลยสำหรับเมนูกุยช่ายขาวที่ใช่สำหรับข้าวต้มกุ๊ยที่จะทำให้คุณติดใจเมนูข้าวต้มยาว ๆ มาก – กุยช่ายขาวหมูกรอบ                “กุยช่ายขาวหมูกรอบ” เป็นเมนูกุยช่ายขาวที่เหมาะจะนำมารับประทานจับคู่กับข้าวต้มมากที่สุด เพราะมีรสชาติที่เข้มข้นของน้ำผัดผักกุยช่ายที่ออกรสเค็มซึ่งเมื่อตักมาราดหน้าข้าวต้มกุ๊ยแล้วจะผสานกันอย่างเอร็ดอร่อย ตัวกุยช่ายก็มีความนุ่มตัดกับความกรอบฉ่าเนื้อแน่นของหมูกรอบที่อร่อยอย่างมากเลย ใครที่ไม่เคยลองต้องได้ลอง ยิ่งใครเป็นสายหมูกรอบยิ่งบอกเลยว่าหากหมูกรอบถูกผัดกุยช่ายขาวแล้วจะยิ่งหอมกลิ่นหมูกรอบติดกระทะ ติดตัวผักมากเป็นพิเศษด้วย ลิงก์ Youtube ที่เกี่ยวข้องกับ “กุยช่ายขาวหมูกรอบ” ผัดกุยช่ายขาวหมูกรอบ – กุยช่ายขาวเต้าหู้                “กุยช่ายขาวเต้าหู้” เมนูกุยช่ายขาวนี้ สายคลีนและผู้สูงอายุ หรือผู้ที่รับประทานมังสวิรัติจะชื่นชอบในการรับประทานกับข้าวต้มกุ๊ยมากเป็นอันดับแรก ๆ เลย เพราะเต้าหู้เมื่อนำมาผัดกับกุยช่ายขาวแล้วจะได้ความนุ่มละลายในปาก กัดเข้าไปแล้วได้น้ำผัดที่แทรกเนื้อในอย่างเอร็ดอร่อยละมุนมาก […]

            ไหนขอเสียงคนที่เป็นสายชอบรับประทานไก่ย่างกับข้าวเหนียวร้อน ๆ หน่อยเร็ว! แน่นอนว่าหากจะกล่าวถึงหนึ่งในประเทศแถบเอเชียที่ผู้คนนิยมรับประทานไก่ย่างเป็นอาหารหลักกันมากที่สุดแล้วล่ะก็ต้องพูดถึง “ประเทศไทย”นี่ล่ะ ข้าวเหนียวไก่ย่างคู่กับส้มตำนี่มีให้เห็นอยู่ทุกสตรีทฟู้ดส์และมีร้านหลายร้านทั่วทุกจังหวัดจนกลายเป็นภาพจำพร้อมกลิ่นหอม ๆ ของไก่ที่หมักและนำมาย่างในเตาถ่านลอยมาพร้อมควันแบบชวนให้น้ำลายไหลมาก แต่ ๆ ๆ บางคนอาจจะยังสงสัยตั้งแต่เด็กมาจนถึงตอนนี้ว่า ทำไมไก่ย่างของไทยเราจึงมี 2 รูปแบบที่แตกต่างกัน บางร้านก็ขาย “ไก่ย่างสีน้ำตาล” แต่บางร้านก็ขาย “ไก่ย่างสีแดงอมส้ม” ที่น่ารับประทานทั้งสองอย่างเลย ซึ่งหากคุณอยากรู้ว่า ทำไมไก่ย่างถึงมี 2 รูปแบบ แต่ละแบบอร่อยมีเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างไร มีที่มาน่าสนใจแค่ไหนแล้วล่ะก็ต้องมาอ่านกันเลย – ไก่ย่างสีแดง                “ไก่ย่างสีแดง” เป็นไก่ย่างสูตรไทยแท้ที่ทำกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ด้วยเพราะสมัยก่อนการทำเครื่องปรุงหรือซอสต่าง ๆ ด้วยวัตถุดิบที่หลากหลายนั้นค่อนข้างยากมากและมีกระบวนการที่ใช้เวลา ไหนจะต้องหาวัตถุดิบอีกในสภาพแวดล้อมไทยที่ไม่เอื้ออำนวยเท่าที่ควร ทำให้คนไทยเลือกที่จะใช้วัตถุดิบหาง่ายในท้องถิ่นอย่าง “มะเขือเทศ” ที่ปลูกตามบ้านเรือนมาปรุงน้ำตาลมะพร้าวแล้วหมักกับไก่เน้นเสียบไม้จนได้ความอร่อย มีลักษณะเนื้อกับหนังที่มีสีแดงอมส้มสวยงาม หากเป็นไก่ไม่มีกระดูกจะเสียบไม้ แต่สำหรับไก่มีกระดูกจะใช้ไม้หนีบไว้แล้วย่างบนเตาถ่าน มีกลิ่นหอมของมะเขือเทศที่เป็นธรรมชาติและหวานแทรกเนื้อได้นุ่มมาก แต่ในสมัยนี้มักจะใช้เป็นสีผสมอาหารสีแดงแทน ลิงก์ Youtube ที่เกี่ยวข้องกับ “ไก่ย่างสีแดง” [แจกสูตร] ไก่ย่างแดง […]

          สุกี้ยากี้ มาจากคำว่า ซูกิ ที่แปลว่า พลั่ว กับ ยากิ ที่แปลว่า เนื้อสัตว์  สุกี้ยากี้กำเนิดขึ้นในโลกตั้งแต่ยุคกลางของญี่ปุ่น เล่ากันว่า ครั้งหนึ่งนักรบในยุคกลางของญี่ปุ่นได้ออกล่าเนื้อสัตว์ (ยากิ) และนำเนื้อมาให้ชาวบ้านใช้พลั่ว (ซูกิ) ปรุงอาหารให้ จึงเรียกเมนูนี้ว่า ซูกิยากิ จนกระทั่งญี่ปุ่นเปิดประเทศออกสู่สากล ในปี ค.ศ. 1890 เมนูซูกิยากิก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยที่ในช่วงนั้นก็มีการพัฒนาพลั่วที่ใช้เป็นหม้อต้มให้ใช้งานง่าย และเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนั้นด้วย  ช่วงแรก ซูกิยากิปรุงได้ 2 แบบ คือ แบบคันโตะ (แบบโตเกียวหรือภาคกลาง) ซึ่งจะปรุงรสน้ำซุปให้มีรสชาติกลมกล่อม พร้อมนำเนื้อสัตว์และผักมาต้มได้เลยทันที และแบบคันไซ (แบบโอซากะหรือภาคเหนือ) ที่ต้องต้มเนื้อสัตว์และผักก่อน จากนั้นจึงค่อยนำเนื้อและผักออกมาปรุงรสด้วยซอสและซีอิ๊วก่อนจะรับประทาน     ส่วนในไทยนั้น สุกี้ยากี้เริ่มรู้จักกันเมื่อปี พ.ศ. 2500 โดยมีร้านอาหารชื่อสุกี้โคคาเป็นผู้นำอาหารเสิร์ฟในหม้อเข้ามาเป็นเจ้าแรก โดยเปิดเป็นร้านย่านสยามสแควร์ และด้วยรสชาติความร่อย ความแปลกใหม่ จึงทำให้ร้านสุกี้ยากี้นี้ขยายสาขาอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ สุกี้ยากี้แบบไทย […]

            หากจะกล่าวถึงความแปลกของอาหารจากทั่วทวีปในโลกใบนี้แล้วล่ะก็ “ทวีปเอเชีย” ถือเป็นทวีปที่แต่ละประเทศมีความหลากหลายในหน้าตาเมนูอาหารมากจนเวลาที่คนจากยุโรปหรือทวีปอื่นมาเยือนก็มักจะรู้สึกแปลกใจในอาหารนั้น ๆ ด้วยไม่คิดว่าจะสามารถทำออกมารับประทานได้ บางอย่างที่ดูไม่เข้ากันก็สามารถประกอบอาหารให้มีความอร่อยแนว ๆ อาหารฟิวชั่นบ้านเขาจนเกิดเป็นความติดใจมาก โดยเฉพาะบริเวณประเทศจีน เกาหลี เวียดนาม ญี่ปุ่น เมียนมาร์ และไทยเรานี่ล่ะที่มีความครีเอทีฟในการทำอาหารที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครเขามากที่สุด จึงไม่แปลกที่ว่าทำไมอาหารของประเทศแถบนี้เวลาชาวต่างชาติมาเยือนจึงเลือกที่จะเข้าร้านอาหารพื้นเมืองแทนที่จะหาร้านอาหารตะวันตกที่เหมาะกับสไตล์ของพวกเขามากกว่า เพราะความแปลกใหม่ของอาหารที่ทำให้พวกเขาทึ่งกับหน้าตาและรสชาตินี่เอง ยิ่งเป็นพวกเมนูพิซซ่าเอเชียนี่ถือเป็นเมนูที่ใครต่อใครที่เห็นก็ต้องเอาไปบอกต่อทั้งนั้นเพราะมีกลิ่นอายอาหารตะวันตกที่ผสมผสานกับเอกลักษณ์วัตถุดิบพื้นเมืองอย่างสเปเชียลมากที่สุด วันนี้เราจึงได้นำเมนูพิซซ่าเอเชียที่ได้รับการชื่นชมมากที่สุดมาแนะนำทุกคนกันเผื่อว่าคุณอยากลอง “พาจอน”                “พาจอน” เป็นเมนูพิซซ่าเอเชียสุดแปลกจากประเทศเกาหลีที่มีความเป็นแผ่นบาง ไม่หนาเหมือนพิซซ่าต้นตำรับ ด้วยเพราะคนเกาหลีใช้แป้งแพนเค้กจึงมีความหนานุ่ม กรอบนอก ละมุนใน ได้ความอร่อยเอกลักษณ์ของกิมจิแบบหั่น และซอสปรุงรสเกาหลีที่มีความหวานปนเผ็ดโด่ง บางที่ก็ใส่ซีฟู้ดหรือไก่เข้ามาร่วมด้วย หอมกลิ่นต้นหอมและงาขาวที่อยู่ภายใน มักนิยมรับประทานคู่กับมักก็อลลีหรือไวน์ข้าวเกาหลี ลิงก์ Youtube ที่เกี่ยวข้องกับ “พาจอน” พาทำพิซซ่าเกาหลี พิซซ่าทะเลต้นหอม “พิซซ่ากะเพรา”                “พิซซ่ากะเพรา” เป็นเมนูพิซซ่าเอเชียสุดแปลกที่คนไทยนิยมทำกันมากที่สุด ด้วยเพราะเมื่อนำแป้งพิซซ่าที่มีความหนาไปอบออกมาแล้ว กลิ่นของกะเพราควายจะออกมาโด่งพร้อมกลิ่นพริกชี้ฟ้าที่พาให้เมื่อผสมผสานกับกลิ่นขนมปังร้อน ๆ แล้วก็กลายมาเป็นกลิ่นตะวันตกที่แปลกใหม่ แป้งกรอบนอกนุ่มใน อาจมีการใส่ซีฟู้ดหรือเบคอนเข้าไปก็ได้เพื่อให้ได้พลังงานความอร่อยจากเนื้อสัตว์ที่ตัดกับกะเพราแบบที่ต้องยกนิ้วให้เลย ลิงก์ Youtube […]

            ในช่วงเวลายามเย็นเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เราจะได้รับอาหารอย่างครบถ้วนแต่ก็ไม่ควรเป็นอาหารที่มีพลังงานมากเกินไป ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ก็นิยมทำอาหารประเภทผักต้มกับปลาและน้ำพริกเข้มข้นอร่อย ๆ มารับประทานกันตามบ้านเรือนเสมอจนกลายเป็นเมนูอาหารที่ไม่ว่าเราจะไปเยี่ยมเยียนบ้านแขกที่ใดหากในช่วงเย็น หากมีการต้อนรับกันด้วยอาหารก็ย่อมต้องมีเมนูน้ำพริก ผักต้มกับปลามาให้เห็นด้วยตลอดเวลาจนคาดเดาหลายอย่างถูก แต่ในยุคนี้หากจะให้มีแต่เมนูที่ไม่ใช่ของทอดเลยก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ผู้คนรุ่นใหม่นัก แต่หากจะให้เป็นเมนูเนื้อสัตว์ทอดก็จะมาเสริมกับเมนูปลาแบบไม่เหมาะอีก ฉะนั้นเมนูของทอดที่คู่ควรกับเซ็ตผักต้มและปลามากที่สุดจึงต้องเป็น “ข้าวเกรียบ” ที่สามารถนำมาเป็นเครื่องเคียงเสริมความอร่อยของอาหารเหล่านี้ได้ วันนี้เองเราจึงถือโอกาสนำรูปแบบข้าวเกรียบอร่อย ๆ ที่เหมาะจะนำมาใช้จับคู่ในอาหารประเภทผักต้มให้ลงตัวกันมาบอกเล่าเมนูทอดง่าย ๆ อร่อย ๆ กัน – ข้าวเกรียบฟักทอง                “ข้าวเกรียบฟักทอง” เป็นเมนูข้าวเกรียบสุดอร่อยที่มีรสชาติเน้นไปทางหวานเข้มข้นตามฉบับของเนื้อฟักทองที่ชูโรงร่วมกับความมันของแป้งทำข้าวเกรียบด้วยทำให้มีความเป็นเอกลักษณ์ในรสชาติที่พอละลายในปากจะยิ่งหวานมากขึ้นกว่าเดิมตัดกับเมนูอาหารประเภทผักต้มกับปลาที่มีความหวานนิดขมหน่อยและเค็มได้อย่างโดดเด่นมาก ทำให้ได้ความเข้มข้นที่ดีกว่าได้แค่รสชาติพื้น ๆ ของอาหารหลักซึ่งทุกคนต้องติดใจแน่นอน ลิงก์ Youtube ที่เกี่ยวข้องกับ “ข้าวเกรียบฟักทอง” ข้าวเกรียบฟักทอง /ทำกิน ทำขาย ทำง่าย/คิด-เช่น-ไอ /Thai food – ข้าวเกรียบผัก                “ข้าวเกรียบผัก” เป็นเมนูข้าวเกรียบออแกนิกที่คุณสามารถทำเองได้ตามบ้านเรือนและสามารถใช้ผักหลายอย่างในการทำได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแครอท ต้นหอม มันม่วง กะหล่ำม่วง ผักโขม บีทรูท และอื่น ๆ […]