Author: savourworlddd001

อาหารว่างของไทยที่คงความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เรียกว่าเป็น แคลิฟอร์เนีย มากิของไทยเลย ด้วยความหลากหลายของเครื่องที่ใช้ห่อ และความลงตัวของรสชาติต่าง ๆ นั้นต่างนำมาซึ่งความประทับใจให้กับผู้ที่ได้ลิ้มชิม ซึ่งในสมัยนี้การหากินเมี่ยงคำเริ่มหายากขึ้นทุกที ไม่ได้มีขายทุกที่แต่มีเฉพาะบางตลาดนัด หรือบูธขนมไทยบางที่เท่านั้น ด้วยความเด่นอร่อยของน้ำราดที่กลมกล่อมมีทุกรส และเพิ่มเติมที่เครื่องต่าง ๆ ที่หลากหลายทั้งความกรุบกรอบของถั่วลิสง มะนาว พริกขี้หนู  กุ้งแห้ง ขิง หอมแดง และที่ขาดไม่ได้คือ มะพร้าวคั่วหากร้านไหนทำละเมียดละไมก็จะนำความอร่อยให้กับเมี่ยงคำจาก มะพร้าวคั่วตรงนี้ เมี่ยงคำ มีพบได้ที่บทพระราชนิพนธ์ กาพย์เห่ชมเครื่องว่างในสมัยสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งในสมัยนั้นใช้เป็นเครื่องว่างในการนั่งกิน สังสรรค์กัน สมาคมร่วมกัน เมี่ยงคำจึงเป็นอาหารว่างสำหรับราชนิกุลในสมัยก่อนที่ต้องมีความปราณีตในการหั่น ซอย จัดวางให้ดูน่ากิน การห่อเมี่ยงคำมีหลากหลายรูปแบบมาในสมัยปัจจุบันนี้จากที่ห่อเมี่ยงคำเป็นคำ ๆ ในตอนที่กิน เมื่อจะกินคำต่อไปต้องห่อกินเป็นคำ ๆ มาในสมัยนี้สามารถหาซื้อได้แบบที่ห่อให้เสียบไม้เสร็จ หรือสามารถห่อเป็นเหมือนอาหารชาวญี่ปุ่นแบบ แคลิฟอร์เนีย มากิ ได้ ส่วนใบที่สามารถนำมาห่อคือ ใบทองหลาง และใบชะพลู ส่วนที่สำคัญที่สุดสำหรับเมี่ยงคำอยู่ที่ น้ำราดที่ทำมาจาก กะปิ น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ […]

สำหรับคนไทยคงคุ้นเคยกับอาหารหม้อสุกี้ หรือสุกี้ยากี้ ที่มีน้ำซุปมาให้แล้วนำของสดทุกอย่างลงไปลวก ๆ ต้ม ๆ รวมกันหมดไม่ว่าจะเป็น ผักสด เนื้อสัตว์ทุกชนิด ลูกชิ้นต่าง ๆ ไข่ เส้น ไม่ว่าจะเป็นบะหมี่ อุด้ง เรียกว่าที่คนนิยมกินกันนอกจากความหลากหลายในตัวของที่นำมาใส่ลงในหม้อแล้วจุดเด่นอยู่ที่ความชอบ และสะดวกของคนกินว่าอยากลวก ต้มนาน ๆ หรือตุ๋นจนเปื่อยแล้วใส่ข้าวกลายเป็นข้าวต้มรวมมิตรเลย หม้อสุกี้ที่เราคุ้นเคยและชอบกินเราอยากรู้ถึงที่มาหรือเปล่าว่ามีความเป็นมายังไงถึงมาเป็นหม้อต้มรวมแบบนี้ได้ ที่มาบางคนอาจคิดว่าต้นกำเนิดมาจากประเทศจีนเพราะเห็นเป็นการต้มเป็นหม้อ ๆ แต่จริง ๆ แล้วมาจากประเทศญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 19 ยุคกลางของประเทศญี่ปุ่นซึ่งตอนนั้นประเทศญี่ปุ่นยังไม่มีความนิยมกินเนื้อวัวเหมือนทุกวันนี้ และฟาร์มเลี้ยงวัวก็ไม่ค่อยมีเท่าเดี๋ยวนี้ การทำสุกี้ในสมัยนั้นก็จะมีใส่แค่เนื้อปลา ผัก และไก่เท่านั้น ถ้าในหมู่ชาวประมงก็จะใส่ ปลา กับ ผัก เป็นส่วนใหญ่ ภายหลังที่ญี่ปุ่นเริ่มมีการกินเนื้อโดยตอนแรกมีการนำเนื้อวัวจากต่างประเทศเข้ามา และมีกรรมวิธีในการเตรียมเนื้อวัว คือ นำอุปกรณ์คล้ายพลั่วเล็ก ๆ เรียกว่า สุกิ และนำเนื้อวัวไปย่าง การย่างเรียกว่า ยากิ จึงเป็นที่มาของคำพ้องเสียงว่า สุกี้ยากี้ – […]

แค่คำเดียวก็สดชื่นได้แล้ว กับเมนูไอศกรีมชาเขียว สูตรขนมสุดโปรดของหลาย ๆ คน ไม่ต้องสั่งซื้อให้เสียเวลา แถมยังไม่ต้องใช้เครื่องทำไอศกรีมด้วยนะ สีเขียวสวยรสเข้มกลมกล่อม หวานหอมเย็นชื่นใจ เนื้อเนียนนุ่มละมุนลิ้น เลือกความเข้มข้นได้ ใส่ option เสริมได้ตามใจชอบเลย ! เพื่อน ๆ รู้ไหมคะ ว่าจริง ๆ แล้ว ไอศกรีมเนี่ย ทำง่ายกว่าที่คิดนะ แค่มีวัตถุดิบเพียง 3 อย่าง แถมไม่ต้องใช้เครื่องปั่นด้วย ใช้เวลาไม่นาน ทีนี้ก็ไม่ต้องสั่งซื้อหรือเดินออกไปทานที่ร้านให้เสียเวลาแล้วค่ะ ในวันนี้ เราจะมาสอนวิธีการทำไอศกรีมชาเขียว ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นรสชาติสุดโปรดที่ใครหลาย ๆ คนหลงรัก ซึ่งข้อดีของการทำไอศกรีมโฮมเมดเนี่ย นอกจากจะประหยัดกว่า ยังสามารถเลือกระดับความเข้มข้นได้เอง ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใส่ผงชาเขียว เติมรสชาติลงไปมากน้อยเท่าไร ที่ดีไปกว่านั้นก็คือ ยังสามารถใส่ Add ons หรือออพชั่นเพิ่มเติมได้ตามใจเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นถั่วแมคคาดีเมีย ไวท์ชอคโกแลต หรือคุกกี้โอรีโอ้ ใส่ยิ่งเยอะก็ยิ่งสนุก ยิ่งอร่อย ฟินสะใจสุด […]

อาหาร ถือว่าเป็นศาสตร์ และศิลป์ เพราะการทำอาหารนอกจากการที่เราจะทำตามตำราแล้ว เรายังต้องลงมือปฏิบัติเพื่อให้รู้ว่าจริง ๆ เพื่อที่จะดูรสชาติฝีมือเราเป็นยังไง ต้องปรับปรุงไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะกลมกล่อม อร่อย ถูกปาก และจานอาหารอย่างหนึ่งที่เรียกว่า ปราบเซียนเลย คือ อาหารที่เป็นน้ำซุป เห็นเป็นแค่อาหารน้ำ ๆ ก็ไม่ใช่เอาน้ำเปล่ามาใส่เครื่องปรุงเฉย ๆ เพราะน้ำซุปนี่แหละเค้าเรียกว่า หม้อทองคำที่มีทั้งวัตถุดิบ เครื่องปรุง และฝีมือเคล็ดลับการต้ม ตุ๋น ที่บางสูตรต้องอาศัยการเปิดไฟตุ๋นไปเรื่อย ๆ กินเวลาข้ามวัน หรือหลายชั่วโมงเพื่อให้ได้น้ำซุปที่มีรสชาติกลมกล่อมแค่หม้อเดียว นั่นคือเป็นที่มาที่บางร้านทำน้ำซุปอร่อยจนลูกค้าต้องยืนต่อคิวเข้าร้านเพื่อกินแค่ชามเดียว อย่างเช่นในประเทศญี่ปุ่นเราจะเห็นกันมากสำหรับร้านราเมน ร้านสุกี้ยากี้ ที่มีพื้นฐานน้ำซุปที่อร่อยไม่ว่าจะใส่อะไรลงไปก็อร่อย น้ำซุปหลัก ๆ ที่คนนิยมกินกัน จะเป็นน้ำซุปแบบญี่ปุ่น กับน้ำซุปแบบจีน มาวันนี้เรามาลองทำน้ำซุปหม้อทองคำเพื่อเป็นน้ำซุปพื้นฐานในการทำอาหารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบะหมี่ ก๋วยเตี๋ยวน้ำ ข้าวต้ม เกี๊ยวน้ำ ซุปเต้าหู้ หรือซุปผัก ไว้กินเพื่อให้ร่างกายอุ่น ๆ ในมื้อค่ำ ๆ […]

น้ำพริก เป็นอาหารติดก้นครัวคนไทยมาแต่ไหนแต่ไรมา เรียกว่าสมัยก่อนคนไทยมีแค่น้ำพริกถ้วยเดียว กับผักสด ถ้าดีมากกว่านั้นก็มีปลาทอดอีกตัวเรียกว่า ไม่ต้องขวนขวายหาอาหารอะไรกินกันเพราะเป็นอาหารที่ครบ 5 หมู่ แถมอร่อยได้แบบไทย ๆ บ้านเราเองอีกด้วย มาถึงวันนี้น้ำพริกต่างๆ ยังมีอยู่ในแถบต่างจังหวัด แต่ในตัวเมืองใหญ่ ๆ อย่างกรุงเทพฯ เรากลับมีการกินน้อยลงมากโดยที่เราหันไปกินอาหารที่ง่ายๆ ทำง่ายสั่งกินง่าย อย่างไก่ทอด พิซซ่า บะหมี่ราเมง ทำให้บ่อยครั้งที่เราเผลอลืมอาหารบ้านเราไปว่ามี น้ำพริก ถ้วยนี้ที่ทั้งอร่อย แซ่บ และมีประโยชน์มากกว่าอาหารต่างชาติ ต้นกำเนิดน้ำพริกไม่ได้มาจากไกลที่ไหนแต่มาจาก พระนครศรีอยุธยา เมืองเก่าของเราแต่ก่อนนี่เอง คำว่า น้ำพริก เป็นคำที่มาจากการที่คนสมัยก่อนนำเอาพวกเครื่องสมุนไพรไทยต่างๆ มาโขลกตำในครกเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น กระเทียม หอมแดง พริก โดยมีของกินเคียงไม่ว่าจะเป็นผักสุก หรือผักดิบก็ตาม อย่างเช่น มะเขือต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นมะเขือยาว มะเขือเปราะ มะเขือเต่า มะระ ผักใบ ๆ ต่าง ๆ […]

ปลาร้า ถ้าพูดถึงนาทีนี้คงมีใครได้ซี้ดแซ่บที่ปากกันบ้าง เพราะไม่ว่าจะเป็นส้มตำที่ผู้หญิงทุกคนเป็นต้องใฝ่ฝันหาทุกวันมาเป็นอาหารสักมื้อของวัน หรือสามารถนำไปดัดแปลงไปทำเป็นอาหารได้หลากหลายแม้กระทั่งอาหารในแถบตะวันตก อย่างเช่น สปาเกตตี้ที่คนฝั่งตะวันตกก็มีแองโชวี่ คือปลาดองเกลือ แต่ปลาร้าที่เราเห็นแตกหน่อมาจากแองโชวี่ของทางตะวันตกกันหรือไม่ จริง ๆ แล้วปลาร้าเป็นอารายธรรมการกินของชาวมอญ และเขมรที่ส่งผ่านมายังคนที่เดินทางข้ามต่อประเทศทั้งสองนี้ จนสามารถเห็นได้ว่าปลาร้าเริ่มเข้ามาในไทยตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และได้มีการกล่าวถึงการทำปลาร้า ซึ่งเรียกว่าเป็นอาหารที่เสมือนเครื่องปรุงรสสำหรับชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนในทางลาว หรืออีสานก็จะเรียกอีกชื่อว่า ปลาแดก สำหรับเครื่องปรุงหลัก ๆ ที่ใช้ในการหมักปลาร้า ได้แก่ เกลือ ข้าวคั่ว รำข้าว ปลาร้ามีการจัดแบ่งเป็น 3 แบบ 1.ปลาแดกหอม มีลักษณะเด่นคือ ออกสีแดง ส่วนใหญ่จะใช้เป็นปลาที่มีไซส์ขนาดที่โตสักหน่อย ได้แก่ ปลาช่อน หรือปลาดุก สัดส่วนคือ ปลา 4 ส่วน เกลือ 2 และรำข้าว หรือข้าวคั่ว 1 ส่วน 2.ปลาแดกนัว จะนำปลาที่มีขนาดไซส์กลาง หรือเล็ก สัดส่วน ปลา […]

ข้าวแช่ อาหารที่มาพร้อมกับหน้าร้อน หากใครลืมหลงวันหลงฤดูกาลได้เห็นว่าช่วงไหนมีข้าวแช่ออกมาให้รู้ได้เลยว่าหน้าร้อนมาถึงแล้ว สัญลักษณ์ข้าวแช่จึงเป็นสัญลักษณ์ของอาหารที่ช่วยคลายร้อนให้ภายในร่างกายเราเย็นมากขึ้น เนื่องจากตัวหลักที่ยืนพื้นกินกับกับข้าวที่เตรียมเป็นสำรับคือ ข้าวหอมมะลิต้องหุงเป็นเม็ดเรียงตัว พร้อมด้วยน้ำลอยดอกมะลิที่ผ่านการแช่ดอกมะลิให้น้ำมีกลิ่นหอมมาข้ามคืน หรือบางทีอาจนำไปอบควันเทียนร่วมด้วย แล้วค่อยนำมาตักใส่ในข้าวหอมมะลิ และเติมน้ำแข็งก้อน จะไม่ใช่มีการใช้น้ำแข็งบดเพราะต้องการให้ข้าวแช่มีความเย็นแบบอ่อน ๆ ไม่ต้องการให้เย็นจัดเหมือนที่เราน้ำใส่น้ำแข็งเต็มแก้ว จะสังเกตดูได้ว่าคนสูงอายุจะชอบอาหารชุดนี้เป็นพิเศษ เพราะข้าวแช่กินง่ายพร้อมกับข้าวที่กินเป็นคำ ๆ พร้อมกับข้าว แต่ไม่นิยมให้นำกับข้าวใส่ลงไปในถ้วยข้าวแช่เพราะจะทำให้น้ำของข้าวแช่ละลายรสชาติของกับข้าวเสียรสชาติ ที่มาหากเราไม่ได้รู้ต้นกำเนิดของข้าวแช่ เราคงคิดว่าข้าวแช่นี่แหละเป็นอาหารของคนไทยสมัยก่อนเป็นแน่ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ที่จริงข้าวแช่เป็นอาหารของคนมอญและนำเอาข้าวแช่เข้ามาพร้อมกับการมาทำงาน ย้ายถิ่นฐานเดิมเข้ามาอยู่ในไทยนำเอาอาหารนี้เข้ามาด้วย หลัก ๆ คนมอญจะทำข้าวแช่กันในเทศกาลสงกรานต์ หรือช่วงเดือนเมษายน หรือวันที่ 13 เมษายน เพราะจะมีการเตรียมการเตรียมการไปวัดเพื่อทำบุญ และมีทำอาหารเหล่านี้เพื่อเตรียมไปถวายให้วัดพร้อมกับเทพีนางสงกรานต์ อยากให้มีการสืบต่อมาก็มีทำกันมาจนถึงตอนที่มาพักอาศัยในเมืองไทยเลยกลายเป็นวัฒนธรรมอาหารที่ผ่านเข้ามาในเมืองไทย จนเราคิดว่าเป็นอาหารของคนไทยเราเอง เครื่องสำรับของข้าวแช่จะมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกะปิทอด ไชโป้วผัดไข่ พริกหยวกชุบไข่ทอด หมูทอด เนื้อทอด ปลาเค็ม กินคุ่กับข้าวแช่ลอยดอกมะลิ แต่มาสมัยนี้มีการทำที่ง่ายมากขึ้นเพราะอาจไม่มีเวลาที่จะเอาดอกมะลิลอยข้ามคืนเพื่อให้น้ำมีกลิ่นดอกมะลิ มีการใส่กลิ่นดอกมะลิเพื่อเสริมกลิ่นมากขึ้น แต่ยังไงเสน่ห์ของอาหาร ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเป็นอาหารประจำชาติเราหรือไม่ แต่ขึ้นอยู่กับเป็นอาหารที่เรารักษาเอกลักษณ์ของอาหารไว้ได้ครบถ้วน ไม่มีการดัดแปลงหรือเปลี่ยนแปลงตัวอาหารมากจนเกินไป ขอบคุณเครดิตภาพจาก: naewna.com […]