

ปัจจุบันมีทั้งมันเทศและมันฝรั่งมาให้เลือกรับประทานกันมากขึ้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับพืชบริโภคหัวทั้งสองชนิดนี้ ในโลกตะวันตกนั้น มันฝรั่งเป็นที่รู้จักกันมาอย่างยาวนาน แต่สายพันธุ์มันฝรั่งที่นำมาทำเฟรนช์ฟรายส์นั้นเกิดขึ้นราวทศวรรษที่ 1860 โดยมีต้นกำเนิดทางตอนเหนือของรัฐนิวยอร์ก ซึ่งลูเธอร์ เบอร์แบงค์ ได้คัดเลือกต้นกล้ามันฝรั่งมาปลูกจึงได้ชื่อพันธุ์ว่า รัสเซตเบอร์แบงค์
จนกระทั่งช่วงต้นทศวรรษที่ 1900 มันฝรั่งสายพันธุ์นี้ได้รับการปรับปรุงพันธุ์ให้สามารถเติบโตในพื้นที่แปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ จนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อุตสาหกรรมมันฝรั่งแช่แข็งจึงเริ่มต้นขึ้น และทำให้มันฝรั่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ส่วนมันเทศมีถิ่นกำเนิดเดิมอยู่บริเวณเขตร้อนของทวีปอเมริกา หลังจากชาวยุโรปค้นพบทวีปอเมริกา นักสำรวจชาวสเปนได้นำมันเทศไปสู่ประเทศสเปน จากประเทศสเปนก็แพร่ต่อไปยังประเทศอื่น ๆ ในยุโรป อินเดีย ฟิลิปินส์ จีน และญี่ปุ่น
– คุณค่าทางโภชนาการของมันเทศและมันฝรั่ง

มันเทศเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ มีใยอาหารสูง วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น โดยเฉพาะเบต้าแคโรทีนซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอในร่างกายได้ ดังนั้นร่างกายสามารถรับวิตามินเอทุกวันได้ง่าย ๆ จากมันเทศ วิตามินเอ นั้นดีต่อสุขภาพตาและกระดูก รวมทั้งยังช่วยต่อต้านการติดเชื้อที่ผิวหนังปอดและปาก และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างมันเทศและมันฝรั่ง
มันทั้งคู่มีคุณค่าทางโภชนาการและเป็นส่วนหนึ่งของอาหารเพื่อสุขภาพ ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน ทั้งยังมีวิตามินซีและโพแทสเซียมในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ดี มันเทศมีใยอาหารและเบต้าแคโรทีนมากกว่า มีอีกอย่างหนึ่งที่เกี่ยวกับมันเทศ คือ มันเทศมีสีอื่นนอกจากสีส้ม เช่น มันเทศสีม่วงซึ่งมีแอนโธไซยานินสูง สารนี้เป็นเป็นสารพฤกษเคมีที่ไม่เพียงแต่ให้สีม่วงเท่านั้น แต่ยังมีศักยภาพในการต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
– วิธีทำอาหารจากมันเทศและมันฝรั่ง

แม้ว่าการทำอาหารจากมันเทศและมันฝรั่ง ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ส่งผลดีต่อสุขภาพ ทำให้ร่างกายได้รับคุณค่าทางโภชนาการจากมันทั้งสองชนิดได้ แต่แน่นอนว่าถ้าเตรียมอาหารโดยใช้ส่วนประกอบอื่น ๆ เพิ่มเติมเข้าไป เช่น มาร์ชเมลโลว์หรือไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ร่างกายก็จะได้รับสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นเข้าไปด้วย แล้ววิธีที่เหมาะสมในการทำอาหารจากมันทั้งสองคืออะไร แบบที่ง่ายคือ ใช้ไมโครเวฟได้ดีที่สุด
เพียงนำมันเทศมาล้างให้สะอาด แล้วใช้ส้อมทิ่มไปรอบ ๆ หลาย ๆ ครั้ง ห่อด้วยกระดาษทิชชู่ชุบน้ำ แล้วนำเข้าไมโครเวฟ ตั้งเวลา 5 นาที และทำซ้ำอีกครั้ง จากนั้นปล่อยให้เย็น เวลานำมารับประทานก็ผ่าครึ่ง ก็สามารถรับประทานจนหมดโดยไม่ต้องปรุงเพิ่มเพราะมันเทศมีความหวานเพียงพอในตัวเอง
มันเทศเป็นพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีใยอาหารและเบต้าแคโรทีน ในขณะที่ มันฝรั่งมีคาร์โบไฮเดรต วิตามินซีและโพแทสเซียมในปริมาณใกล้เคียงกัน แต่มีใยอาหารและเบต้าแคโรทีนน้อยกว่ามันเทศ แต่กระนั้นก็ตาม มันฝรั่งทุกชนิดสามารถรวมอยู่ในอาหารเพื่อสุขภาพได้
เคดิตภาพจาก pixabay.com
เว็บที่ช่วยนำเสนออาหารสุขภาพ หรือว่า กินอะไรดี แนะนำร้านอาหารอร่อย ๆ ให้ได้ตามไปชิมแบบชิล ๆ ตามสไตล์ รวมถึง รีวิวคาเฟ่ และบาร์-ร้าน Nightlife สุดชิค น่านั่งน่าไปเก็บบรรยากาศ มาฝาก
#กินอะไรดี #เมนูอาหาร #ร้านอาหารอร่อย #Nightlife #รีวิวคาเฟ่ #ร้านอาหาร-คาเฟ่ #ที่กิน-ที่พัก #แนะนำร้านอาหาร #อาหาร-สุขภาพ #savourworld.com #คุณค่าของมัน